Path Size อำพล ลำพูน ชุด ม้าเหล็ก/01. อำพล ลำพูน-ม้าเหล็ก. mp3 4. 62 MB ไมโคร ชุด ทางไกล/05. ไมโคร-จากกันด้วยดี. 62 MB The best of อำพล ลำพูน/04. The Best Hits Of Amphol - ม้าเหล็ก. 59 MB ไมโคร - สุริยคราส/07 - ไม่มีเหลือใคร - ไมโคร - สุริยศราส. 51 MB อำพล ลำพูน ชุด อำพลเมืองดี/10. อำพล ลำพูน-อยู่ๆกันไป. 48 MB ไมโคร - ID CARD/10 - อยู่ๆกันไป - ไมโคร - ID 3 4. 48 MB อำพล ลำพูน ชุด ม้าเหล็ก/06. อำพล ลำพูน-ขอเวลาหายใจ. 46 MB อำพล ลำพูน ชุด ม้าเหล็ก/04. อำพล ลำพูน-ไม่อยากทำใคร. 40 MB อำพล ลำพูน ชุด ม้าเหล็ก/07. อำพล ลำพูน-รู้ได้ยังไง. 36 MB The best of อำพล ลำพูน/06. The Best Hits Of Amphol - เติมน้ำมัน. 35 MB ไมโคร ชุด ทางไกล/07. ไมโคร-ดูแลตัวเองด้วย. 32 MB ไมโคร ชุด ทางไกล/02. ไมโคร-ทางไกล. 28 MB อำพล ลำพูน ชุด ม้าเหล็ก/02. อำพล ลำพูน-เอากะเขาหน่อย. 27 MB ไมโคร - สุริยคราส/06 - ที่เขาเรียกว่าเพื่อน - ไมโคร - สุริยศราส. 24 MB อำพล ลำพูน ชุด ม้าเหล็ก/03. อำพล ลำพูน-ลองเชิงลองใจ. 23 MB ไมโคร - 10000 F/09 - คิดไปเองว่าดี - ไมโคร - 10000 3 4. 22 MB อำพล ลำพูน ชุด ม้าเหล็ก/08. อำพล ลำพูน-ไว้ใจ.
45 M สุดท้ายเราก็จะนำค่าทั้ง 3 ที่คำนวณได้ข้างต้นมาทำการเปรียบเทียบซึ่งกันและกัน โดยที่เราจะทำการเลือกใช้ค่าที่น้อยที่สุด ดังนั้นค่า SPACING จริงๆ จึงจะมีค่าเท่ากับ SPACING = MINIMUM ( SPACING req'd, S MAX 1, S MAX 2) SPACING = MINIMUM ( 0. 645 M, 0. 525 M, 0. 45 M) SPACING = 0.
เริ่มต้นจากทำการเลือกใช้ค่าจากมาตรฐาน ACI ก่อนว่าควรจะใช้ตามกรณีใดในการคำนวณปริมาณของเหล็กเสิรมต้านทานการแตกร้าวอันเนื่องมาจากการหดตัวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โดยการพิจารณาจากค่าเกรดของเหล็กเสริมนั่นเอง จากการที่ทำการกำหนดให้ ค่า Ast คือ ปริมาณของเหล็กเสริมกันร้าวที่ต้องใช้ในหนึ่งหน้าตัดที่ทำการพิจารณา ค่า fy คือ ค่ากำลังดึงที่จุดครากของเหล็กเสริมที่ใช้เป็นเหล็กกันร้าวในโครงสร้างแผ่นพื้น ในที่นี้เหล็กเกรด SD40 จะมีค่า fy เท่ากับ 4000 KSC ค่า B คือ ความกว้างของแผ่นพื้น ในที่นี้เราจะทำการพิจารณาต่อความกว้างของแผ่นพื้นที่มีความยาวเท่ากับ 1. 00 M หรือ 100 CM ค่า T คือ ความหนาของแผ่นพื้น ในที่นี้จะมีค่าเท่ากับ 175 MM หรือ 17. 5 CM สำหรับเหล็กเส้น แบบข้ออ้อย หรือ DEFORMED BAR ที่มีค่า fy หรือ ค่ากำลังดึงที่จุดครากมากกว่าหรือเท่ากับ 2800 KSC หากเป็นเช่นนี้ ACI ได้กำหนดให้ทำการคำนวณหาปริมาณของเหล็กเสริมกันร้าวนี้จาก Ast = 0. 0020 x B x T นั่นเป็นเพราะว่าค่า fy ของเหล็กเสริมจะมีค่าเท่ากับ 4000 KSC ซึ่งมีค่ามากกว่า 2800 KSC ตามกรณีในข้อที่ 2 และก็มีค่าที่น้อยกว่า 4200 KSC ตามกรณีในข้อที่ 3 ดังนั้นเราจึงสามารถทำการคำนวณหาค่า Ast ได้จาก Ast req'd = 0.
002 x 100 x17. 5 Ast req'd = 3. 50 CM^(2) / 1 M ดังนั้นปัญหาข้อนี้ต้องการที่จะให้ทำการเสริมด้วยเหล็กจำนวน 2 ชั้น ทำให้ต้องทำการแบ่งปริมาณของ Ast ออกเป็น 2 ส่วนสำหรับเหล็กในแต่ละชั้น ทำให้เหล็ก Ast ในแต่ละชั้นจะมีค่าเท่ากับ Ast = 3. 50/2 Ast = 1. 75 CM^(2) / 1 M / 1 LAYER สำหรับเหล็กขนาด DB12MM จะมีขนาดพื้นที่หน้าตัด หรือค่า Ab เท่ากับ 1. 13 CM^(2) ทำให้เราสามารถที่จะทำการคำนวณหาระยะห่างของการเสริมเหล็กได้จาก SPACING req'd ≤ Ab / Ast SPACING req'd ≤ 1. 13 / 1. 75 SPACING req'd ≤ 0. 645 M ทั้งนี้เราจะยังไม่สามารถใช้ค่า SPACING ตามที่คำนวณได้นี้นะครับ เราจะต้องทำการตรวจสอบเสียก่อนว่าค่า SPACING ที่คำนวณได้นี้สอดคล้องกับที่ ACI ได้กำหนดเอาไว้หรือไม่ นั่นก็คือพอทำการคำนวณหาค่า Ast เสร็จแล้ว ก็ให้เรามาทำการคำนวณหา ระยะห่าง หรือ SPACING ของเหล็กเสริมที่จะวางตัวอยู่ในแผ่นพื้นแต่ละชั้น โดยท่าแรกที่ต้องตรวจสอบคือ ระยะห่างของเหล็กเสริมนี้จะต้องมีค่าไม่มากกว่า 3 เท่าของความหนาของโครงสร้างพื้นนั้นๆ ซึ่งค่านี้จะมีค่าเท่ากับ S MAX 1 ≤ 3 x T S MAX 1 ≤ 3 x 0. 175 S MAX 1 ≤ 0. 525 M สุดท้ายก็คือ ระยะห่างที่จะใช้ในการเสริมเหล็กเพื่อทำหน้าที่กันการแตกร้าวจริงนั้นจะต้องมีระยะห่างไม่เกิน 450 มม ดังนั้นจะทำให้ S MAX 2 ≤ 450 MM S MAX 2 ≤ 0.